โครงงานสะเต็ม
เรื่อง ลิปบาล์มจากทับทิม
จัดทำโดย
1.ด.ญ.ภัทร์ฐิตา
แก้วศิริรัศม์ เลขที่ 1
2.ด.ญ.เกศกนก แสงอรุณ เลขที่ 4
3.ด.ญ.ฐิติวรรณ แกล้วกล้า เลขที่ 7
4.ด.ญ.เปรมิกา พรหมอินทร์ เลขที่ 11
5.ด.ญ.อักษราภัค ขุนชำนาญ เลขที่ 18
ครูที่ปรึกษา คุณครู สุชาติ บุญสนอง
โรงเรียนวรนารีเฉลิมสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
บทคัดย่อ
โครงงานเรื่อง
ลิปบาล์มทับทิมมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการทำลิปบาล์มจากทับทิม
และเปรียบเทียบคุณภาพลิปบาล์มจากทับทิม กับลิปบาล์มยี่ห้ออื่นๆ
โดยนำน้ำทับทิมปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะ นำไปตั้งไฟอ่อนๆกับ ปิโตรเลียมเจล 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ช้อนชา
และเติมสีโดยการใส่ลิปสติกสีชมพูลงไป
จากนั้นคนทุกอย่างให้เข้ากันและนำมาพักให้เย็นตัวลงเล็กน้อย
แล้วจึงใส่กระปุกที่เตรียมไว้
แล้วน้ำไปแช่ตู้เย็น 5-10 นาที ก็จะแข็งตัวกลายเป็นลิปบาล์มจากทับทิม
เมื่อได้ลิปบาล์มจากทับทิม
แล้วจึงนำไปทดสอบคุณภาพเปรียบเทียบกับลิปบาล์มยี่ห้ออื่น
โดยการทดสอบคุณภาพด้านลักษณะเนื้อของลิป
ด้านกลิ่น และสรรพคุณของลิปบาล์มทั้งสองชนิด ผลการทดสอบพบว่า
ด้านลักษณะเนื้อ ลิปบาล์มจากทับทิมมีเนื้อ มีความนิ่ม ไม่ลื่นมาก และละเอียด
ส่วนกลิ่นของลิปทับทิมเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำผึ้งและน้ำมันมะพร้าว
และมีสีชมพูอ่อนๆของลิปสติกที่นำมาเป็นส่วนผสม สรรพคุณของลิปบาล์มทับทิม
เนื่องจากเนื้อลิปมีลักษณะไม่ลื่นมากจึงสามารถเก็บความชื้นไว้ได้ยาวนาน
และมีส่วนผสมของน้ำผึ้งจึงช่วยบำรุงให้ปากไม่แห้ง และดูอิ่มเอิบ
และมีส่วนผสมสมจากทับทิมที่ช่วยป้องกันริมฝีปากจากแสงแดด ส่วนลิปสติกยี่ห้ออื่น
พบว่า มีเนื้อละเอียดหนืดๆ
สีชมพูอ่อนๆกลิ่นหอมกุหลาบ
สรรพคุณช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ยาวนานทำให้ปากไม่แห้ง
จากผลการทดสอบดังกล่าวพบว่า ลิปบาล์มจากทับทิมมีคุณภาพใกล้เคียงกับลิปบาล์มมากทั้งในเรื่องของเนื้อลิป
สีและสรรพคุณบางอย่าง
กิตติกรรมประกาศ
ขอขอบพระคุณผู้ที่สนับสนุนและช่วยเหลือการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อยตามวัตถุประสงค์ ครูทุกท่านในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และครูสุชาติ บุญสนอง ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้ตรวจแก้ไข คำแนะนำ
รายงานโครงงานฉบับสมบูรณ์ตลอดเวลาในการทำโครงงาน
คุณค่าและประโยชน์ของโครงงานฉบับนี้ ขอมอบให้สำหรับผู้ที่สนใจและค้นคว้าวิจัยที่จะทำสืบเนื่องต่อไป
บทที่1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
ปัญหาของริมฝีปากก็ไม่แตกต่างจากผิวพรรณในส่วนอื่นของร่างกาย
และสิ่งที่ก่อความกังวลให้กับหญิงสาวจำนวนมากก็คือ ปัญหาริมฝีปากคล้ำ
ริมฝีปากแห้งและแตกหรือลอกเป็นขุย ซึ่งหากดูแลไม่ดีพอหรือแก้ปัญหาไม่ถูกจุด
ริมฝีปากก็จะยิ่งดำคล้ำทำให้ดูน่าเกลียด และบั่นทอนความงดงามของใบหน้าลงไปมากทีเดียวโดยคณะผู้จัดทำจะทำการศึกษาการทำลิปบาล์มทัมทิม
และนำทำลิปบาล์มจากทัมทิมมาทำการเปรียบเทียบคุณภาพกับลิปบาล์มยี่ห้ออื่น
โครงงานเรื่อง ลิปบาล์มทัมทิม
ถือเป็นการนำสรรพคุณจากผลไม้ตามท้องตลาดมาใช้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างหนึ่ง
วัตถุประสงค์
1.
เพื่อศึกษาการทำลิปบาล์มจากทัมทิม
2.
เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพของลิปบาล์มทัมทิม
กับลิปบาล์มทั่วไป
สมมติฐาน
1ได้ศึกษาการทำลิปบาล์มจากทับทิม
2ได้เปรียบเทียบคุณภาพของลิปบาล์มทัมทิม
กับลิปบาล์มทั่วไป
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น ลิปบาล์มจากทับทิมกับลิปบาล์มทั่วไป
ตัวแปรตาม
คุณภาพและสรรพคุณของลิปที่ได้
ตัวแปรควบคุม
ปริมาณน้ำทับทิม น้ำผึ้ง น้ำมันมะพร้าว ปิโตรเลียมเจล และลิปสติกสี
ระยะเวลาในการศึกษา
วันที่ 19 สิงหาคม -10 กันยายน 2561
งบประมาณ
100 บาท
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.
นำวัสดุธรรมชาติมาทำให้เกิดประโยชน์
2.
เพิ่มความหลากหลายของลิปบาล์มให้มากยิ่งขึ้น
3.
เพิ่มทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์
บทที่2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ทับทิม
ชื่อ : ทับทิม
ชื่ออังกฤษ : Pomegranate
ทับทิม (Pomegranate)
ชื่อท้องถิ่น
เซี๊ยะลิ้ว, พิลา, พิลาขาว, มะก่องแก้ว, มะเก๊าะ, หมากจัง เป็นไม้ผลขนาดเล็ก
มีขนาดประมาณ 5-8 เซนติเมตร
ทับทิมมีถิ่นกำเนิดจากตะวันออกของประเทศอิหร่าน
ทางตอนใต้ของอัฟกานิสถานและทางตอนเหนือของเทือกเขาหิมาลัย
ทับทิมจึงชอบอากาศหนาวเย็นและอยู่บนพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลอย่างน้อย 300 เมตร
ยิ่งอากาศหนาวเนื้อทับทิมจะมีสีแดงเข้มมากขึ้น
ประโยชน์:ผลทับทิมใช้รับประทานเป็นผลไม้มีรสหวานหรือเปรี้ยวอมหวานทับทิมเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพน้ำทับทิมมีวิตามินซีสูงและยังมีสารเกลือแร่ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณที่สูงเหมาะสำหรับการดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย
น้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดและมีประสิทธิภาพสูงมากสามารถลดภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
บรรเทาโรคโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลังและความงาม
ดื่มน้ำทับทิมคั้นวันละแก้วจะช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
ลดการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงและช่วยเสริมสุขภาพของหัวใจให้ดีขึ้น
.jpg)
ริมฝีปาก
ปัญหาของริมฝีปากก็ไม่แตกต่างจากผิวพรรณในส่วนอื่นของร่างกาย
และสิ่งที่ก่อความกังวลให้กับหญิงสาวจำนวนมากก็คือ ปัญหาริมฝีปากคล้ำ
ริมฝีปากแห้งและแตกหรือลอกเป็นขุย ซึ่งหากดูแลไม่ดีพอหรือแก้ปัญหาไม่ถูกจุด
ริมฝีปากก็จะยิ่งดำคล้ำทำให้ดูน่าเกลียด
และบั่นทอนความงดงามของใบหน้าลงไปมากทีเดียว
สาเหตุของริมฝีปากคล้ำ
สีของริมสีปากในคนปกติมีตั้งแต่ชมพูสด สีแดง
ไปจนถึงสีคล้ำ การเปลี่ยนแปลงของสีที่ริมฝีปาดเป็นลักษณะเฉพาะตัวบุคคล เช่นคนผิวคล้ำก็มีแนวโน้มว่าปากจะมีสีเข้มมากกว่าคนผิวขาว
นอกจากนั้นก็ยังเป็นไปตามวัยและสภาพแวดล้อมด้วย
ที่ธรรมชาติได้กำหนดไว้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น ริมฝีปากก็จะเริ่มมีสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ
เช่นเดียวกับสีของผิวหนังส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย เพราะฉะนั้นก็อย่ากังวลไปเลย
ปัญหาของริมฝีปาก
ริมฝีปากเป็นอวัยวะบนใบหน้าที่ยื่นนูนออกมาเช่นเดียวกับจมูกและโหนกแก้ม
ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม และความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ร้อน
หนาว และแล้งแห้ง ไม่ต่างจากใบหน้าที่ต้องเจอปัญหาการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง
ๆ นอกจากนี้ อาหาร เครื่องดื่ม
ยาบางชนิด การสูบบุหรี่ ยาสีฟัน ลิปสติก และความเจ็บป่วย
ก็มีส่วนในการทำให้ริมฝีปากมีสีคล้ำขึ้นด้วย

น้ำผึ้ง
น้ำผึ้ง(Honey)
คือผลผลิตของน้ำหวานจากดอกไม้
และจากแหล่งอื่น ๆ ที่ผึ้งงานนำมาเก็บสะสมไว้ โดยผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมีแล้วสะสมไว้ในรังผึ้ง
ซึ่งปกติแล้วน้ำผึ้งจะมีกลิ่น รส สี ที่ต่างกันออกไปตามชนิดของพืชนั้น ๆ
จึงทำให้สามารถระบุชนิดของน้ำผึ้งตามชนิดของพืชนั้นได้ ๆ เช่น น้ำผึ้งจากดอกส้ม
ดอกลำไย ดอกลิ้นจี่ ก็จะแตกต่างกันออกไปซึ่งนิยมนำมาใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารหรือเครื่องดื่มนานาชนิด
ประโยชน์:ประโยชน์ของน้ำผึ้ง นั้นมีมากมาย
เพราะน้ำผึ้งมีส่วนผสมของน้ำตาลและสารประกอบอื่น ๆ
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฟรุกโทสกับกลูโคส และมีวิตามินและแร่ธาตุผสมอยู่ด้วย เช่น
วิตามินเอ วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 กรดโฟลิก วิตามินซี
ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก
ธาตุทองแดง ธาตุสังกะสี เป็นต้น สำหรับสารประกอบอื่น
ๆที่มีอยู่ในปริมาณเพียงน้อยนิดนั้นจะเป็นสารที่ทำหน้าที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นหลัก
ประโยชน์ของน้ำผึ้ง
1.ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
2.มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย
3.ช่วยลดและป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
4.ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ดูมีน้ำมีนวลเป็นธรรมชาติ
น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าว(Coconut Oil) คือ น้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันจากเนื้อผลของ
มะพร้าว (Cocos nucifera L.) โดยองค์ประกอบหลักของน้ำมันมะพร้าวคือกรดไขมันอิ่มตัว (เกิน 90%
ของปริมาณกรดไขมันทั้งหมด) ซึ่งกรดไขมันเหล่านี้จะมีขนาดโมเลกุลปานกลาง (medium
chain fatty acid) อย่างเช่น กรดลอริก (Lauric Acid) เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะถูกเผาผลาญได้ดี
จึงถูกสะสมในเนื้อเยื่อไขมันได้น้อยกว่ากรดไขมันที่มีขนาดโมเลกุลยาว
เรานิยมใช้น้ำมันมะพร้าวที่ดีที่สุดคือการใช้น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำมันพืชชนิดอื่น
ๆ ในการประกอบอาหาร หรือจะใช้รับประทานเป็นอาหารเสริมก็ได้เช่นกัน
โดยผู้ใหญ่รับประทานวันละ 3-4 ช้อนชา ส่วนเด็กรับประทานวันละ 1-2 ช้อนชา
โดยแบ่งรับประทานออกเป็นมื้อ ๆจนครบตามจำนวน หรือจะนำมาใช้ผสมเป็นเครื่องดื่มต่าง
ๆหรือน้ำผลไม้ก็ได้เช่นกัน
(น้ำมันมะพร้าวผสมกับน้ำมะเขือเทศก็อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว) และสำหรับสาว ๆ
ส่วนมากจะนิยมใช้ในการหมักผม ใช้เป็นคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้า
และนำมาใช้ทาบำรุงผิว เป็นต้น
บทที่3
วิธีการดำเนินงาน
อุปกรณ์
1.น้ำทับทิม
25 มิลลิลิตร
2.น้ำผึ้ง
2 ช้อนชา
3.น้ำมันมะพร้าว
1 ช้อนชา
4.ปิโตเลียมเจล
5 ช้อนโต๊ะ
5.ลิปสติกสีชมพู
½ ช้อนชา
6.กระปุกเล็ก 3 กระปุก
7.หม้อสำหรับใช้ต้ม
1 ใบ
8.ช้อนสำหรับคน 1 คัน
9. เตาแก๊ส
1 เตา 10.
วิธีการทำ การทำลิปบาล์มทับทิม
1. นำน้ำทับทิมปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะ นำไปตั้งไฟอ่อนๆกับ
ปิโตรเลียมเจล 5 ช้อนโต๊ะ
2. ใส่น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ช้อนชาลงไป
3. เติมสีโดยการใส่ลิปสติกสีชมพูลงไป 4. หลังจากนั้นนำมาล้างด้วยน้ำสะอาด 4 ครั้ง
5. คนเรื่อยๆจนทุกอย่างเข้ากัน
6. เมื่อทุกอย่างเข้ากันแล้วยกลงจากเตา
7. ตั้งทิ้งไว้สักครู่หนึ่ง
8.นำไปแช่ตู้เย็น 5-10
นาที
ก็จะแข็งตัวกลายเป็นลิปบาล์มจากทับทิม
บทที่4
ผลการทดลอง
จากการศึกษาการทำลิปบาล์มทับทิม
และเปรียบเทียบคุณภาพและสรพคุณลิปบาล์มทับทิมกับลิปบาล์มทั่วไป
โดยการทดลองใช้จากตัวผู้ทำโครงงาน ผลการทดลองดังตาราง
ตารางที่ 1 แสดงลักษณะของลิปบาล์มทับทิมและลิปบาล์มทั่วไป
ชนิดลิปบาล์ม
|
บริเวณที่ทำการทดลอง
|
ผลที่ได้
|
ลิปบาล์มทับทิม
|
ริมฝีปาก
|
ปากมีสีชมพูอ่อนๆ
ได้กลิ่นหอมของน้ำมันมะพร้าวกับน้ำผึ้ง มีรสหวานของน้ำผึ้ง ปากนุ่มชุ่มชื่น
มันวาว
|
ลิปบาล์มทั่วไป
|
ริมฝีปาก
|
ทาแล้วไม่มีสี
ได้กลิ่นกุหลาบอ่อนๆ นุ่มชุ่มชืนแต่หลุดง่าย ทาแล้วมันวาว
|
จากการศึกษาแลเปรียบเทียบลิปบาล์ม 2 ชนิด
ลิปบาล์มจากทับทิมมีคุณภาพใกล้เคียงกับลิปบาล์มมากทั้งในเรื่องของเนื้อลิป
สีและสรรพคุณบางอย่าง เช่น ช่วยบำรุงให้ริมฝีปากนุ่ม กักเก็บความชุ่มชื้น
บทที่5
อภิปรายและสรุปผลการทดลอง
สรุปผลการทดลอง
1.ลิปบาล์มทับทิมมีสรรพคุณดีกว่าลิมบาล์มทั่วไปบางยี่ห้อ
2.ลิปบาล์มจากทับทิมมีคุณภาพใกล้เคียงกับลิปบาล์มมากทั้งในเรื่องของเนื้อลิป
สีและสรรพคุณ
อภิปรายผลการทดลอง
จากการศึกษาการทำลิปบาล์มทับทิม และเปรียบเทียบคุณภาพและสรรพคุณลิปบาล์มทับทิมกับลิปบาล์มทั่วไป
โดยนำโดยนำน้ำทับทิม ปิโตรเลียม น้ำผึ้ง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
มาทำเป็นลิปบาล์มจากทับทิม พบว่า
จากการศึกษาลักษณะลิปบาล์มทั้ง 2 ชนิด พบว่า ด้านลักษณะเนื้อ
ลิปบาล์มจากทับทิมมีเนื้อ มีความนิ่ม ไม่ลื่นมาก และละเอียด
ส่วนกลิ่นของลิปทับทิมเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำผึ้งและน้ำมันมะพร้าว
และมีสีชมพูอ่อนๆของลิปสติกที่นำมาเป็นส่วนผสม สรรพคุณของลิปบาล์มทับทิม
เนื่องจากเนื้อลิปมีลักษณะไม่ลื่นมากจึงสามารถเก็บความชื้นไว้ได้ยาวนาน
และมีส่วนผสมของน้ำผึ้งจึงช่วยบำรุงให้ปากไม่แห้ง และดูอิ่มเอิบ
และมีส่วนผสมสมจากทับทิมที่ช่วยป้องกันริมฝีปากจากแสงแดด ส่วนลิปสติกยี่ห้ออื่น
พบว่า มีเนื้อละเอียดหนืดๆ
สีชมพูอ่อนๆกลิ่นหอมกุหลาบ
สรรพคุณช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ยาวนานทำให้ปากไม่แห้ง ซึ่งลักษณะลิปบาล์ม 2 ชนิดค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก
และมีสรรพคุณคล้ายกัน
แตกต่างกันตรงที่ลิปบาล์มจากทับทิมเป็นลิปบาล์มที่ทำขึ้นผลไม้
ตาโดยรวมถือว่ามีสรรพคุณมากกว่า
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.เกิดการเรียนรู้ในเรื่องของการสร้างผลิตภัณฑ์โดยการนำสมุนไพร
ผลไม้ วัสดุทางธรรมชาติ
2.ผลิตลิปบาล์มจากทับทิมเป็นส่วนประกอบเพื่อเพิ่มความหลากหลายของลิปบาล์มให้เหมาะสมกับการ ใช้งาน
3.เพิ่มทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงวิทยาศาสตร์
บรรณานุกรม
ทับทิม. (2554). (ออนไลน์).
แหล่งที่มา : https://www.google.co.th/search?q=ทัมทิม
วันที่สืบค้น 20 สิงหาคม 2559
ทับทิม. (2554). (ออนไลน์).
แหล่งที่มา : http://puechkaset.com/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1/
วันที่สืบค้น 19 กันยายน 2559
ริมฝีปาก. (2553). (ออนไลน์).
แหล่งที่มา : https://www.doctor.or.th/article/detail/3444
วันที่สืบค้น 19 กันยายน 2559
น้ำผึ้ง. (2555). (ออนไลน์).
แหล่งที่มา : http://
http://frynn.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87/
วันที่สืบค้น 19 กันยายน 2559
น้ำมันมะพร้าว.. (2553). (ออนไลน์).
แหล่งที่มา : http://
http://frynn.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7/
วันที่สืบค้น 19 กันยายน 2559
โครงงานนี้ดีมากๆเลยนะคะ
ตอบลบขอบคุณค้าบบ
ลบโครงงานนี้มีประโยชน์มาเลยค่ะ
ตอบลบน่าสนใจมากค่ะ
ตอบลบ